'หุ้นไทย' พุ่งแรง 16.73 จุด ปิดบวกสวนทางตลาดภูมิภาค

ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (25 พ.ค.2564) ปิดที่ 1,568.58 จุด เพิ่มขึ้น 16.73 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.08% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 88,951.30 ล้านบาท ระหว่างวันปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,572.03 จุด

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค โดยหลักได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) เพิ่มขึ้น 52.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 10.36% อยู่ที่ 554 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ พบว่ามีกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (แลกการ์ด)

ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) จะทยอยปรับขึ้นตัวขึ้นต่อเนื่อง นำโดยกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ส่วนสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มประกัน กลุ่มธนาคาร และกลุ่มไฟแนนซ์ที่ปรับขึ้นตามลำดับ สอดคล้องกับประมาณการของ บล.กสิกรไทย ที่คาดว่ากลุ่ม Domestic Play จะมีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ค.ต่อเนื่องไปยังเดือน มิ.ย.

อย่างไรก็ดี คาดว่าแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย รวมถึงตลาดหุ้นต่างประเทศจะเริ่มแกว่งตัวไร้ทิศทาง เพราะมีปัจจัยกดดันที่ต้องรอความชัดเจน ได้แก่ การรานงานตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องในวันที่ 8 10 และ 16 มิ.ย. โดยระยะสั้นประเมินแนวรับที่ 1,535 จุด และแนวต้านที่ 1,575 จุด

"หากการจ้างงานและเงินเฟ้อออกมาดีกว่าคาดไม่มาก หรือออกมาตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เราเชื่อว่าตลาดหุ้นจะเหวี่ยงขึ้นลงไม่มาก แต่หากออกมาดีกว่าที่คาดมากจะกดดันให้ตลาดหุ้นร่วงและผันผวนทั่วโลก เพราะกังวลเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย"

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นแลกการ์ดที่ราคามีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่มธนาคาร BBL SCB และ TISCO รวมถึงกลุ่มบัตรเครดิต AEONTS