เข้าสู่ช่วงอาจผันผวนก่อนประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ  

เข้าสู่ช่วงอาจผันผวนก่อนประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ  

ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นต่อเนื่อง

แม้มีข่าวรัสเซียเตรียมลดการถือครองเงินเหรียญสหรัฐฯ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดี ทั้ง ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลงเหลือ 385,000 ราย ต่ำสุดนับแต่โควิดระบาดเมื่อ มี.ค.63 และการจ้างงานภาคเอกชน พ.ค. ที่ออกมา 978,000 ตำแหน่ง (สูงกว่าตลาดคาดที่ 680,000 ตำแหน่ง) ซึ่งทั้งสองประการเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสลดหรือส่งสัญญาณลดการทำ QE ลง ส่งผลให้ให้ค่าเงินสหรัฐฯ ตอบรับด้วยการแข็งค่าขึ้น ซึ่งกดดันต่อทั้งทองคำ และหุ้นในตลาดเกิดใหม่ ตลาดยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) คืนนี้

อัตราการฉีดวัคซีนเร่งตัวขึ้นมากเป็นปัจจัยบวกให้จับตาหุ้นเปิดเมือง จำนวนผู้ป่วยเมื่อ 3 มิ.ย.ที่ 3,886 ราย (ในประเทศ 2,607 / ต่างประเทศ 49/ เรือนจำ 1,203 ราย) ทรงตัวในระดับสูง และยังมากกว่าผู้หายป่วยรายวัน (3,626 ราย) ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดการระบาดระลอกที่ 4 อย่างไรก็ตาม อัตราการได้รับวัคซีนล่าสุด (2 มิ.ย.) ที่เร่งขึ้นเป็น 205,638 โดส (จาก 1 มิ.ย.ที่เพียง 88,859 โดส) ซึ่งทำให้ความหวังการเปิดเศรษฐกิจและหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง อาทิ CPN, CRC, MAJOR, SPA, ZEN, M มีโอกาสกลับเข้าสู่กระแส อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการเก็งกำไรในกลุ่มนี้จะยังผันผวน เนื่องจากการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (75% ของประชากร) จะใช้เวลาราว 1.34 ปี (ประมาณ ปลายไตรมาส 3/65) อย่างไรก็ตามหากอัตราการฉีดวัคซีนเร่งขึ้นเกินกว่าระกับดังกล่าวมาก จะเป็นปัจจัยบวกในการกลับเข้าเก็งกำไรหุ้นเปิดเมืองเพิ่มขึ้น

ยังเลือกเก็งกำไรได้ แต่ระวังความผันผวนของภาพรวมระยะสั้นที่จะสูงขึ้น เราคาดข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจจะโน้มเอียงไปในทางกดดันให้เฟดต้องลงการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (ลด QE) และเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้นอย่างน้อยจนเฟดส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายในการประชุม 16 มิ.ย. ซึ่งเราประเมินเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างฉับพลัน ถึงแม้อาจลดการผ่อนคลายก็จะมีแนวโน้มค่อยเป็นค่อยไปซึ่งจะส่งผลบวกกับบรรยากาศลงทุนหลังการประชุมฯ อย่างไรก็ตามเอเชียและตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) จะมีความเสี่ยงที่จะกระทบจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้นอาจเพิ่มความระวังการเก็งกำไรระยะสั้น และเน้นซื้อในเชิงตั้งรับ หรือเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกชัดเจน

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 5) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 6) เก็งกำไรกลุ่มดิจิตัลทีวี BEC, WORK, MONO, JKN 7) หุ้นกลุ่มเหล็ก TSTH, GJS, AMC 8) กลุ่มโลจิติกส์ที่มีสัญญาณระยะสั้นเป็นบวก SONIC, NCL 9) หุ้นกลุ่มเรือ TTA, PSL, RCL

ภาพรวมกลยุทธ์ การผ่าน 1,606 จุด ทำให้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,630-1,680 จุด อย่างไรก็ตามระยะสั้นมีโอกาสผันผวนก่อนการประชุมเฟด 15-16 มิ.ย. เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับ เลือกเก็งกำไรรายตัว ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกและที่ยังปรับขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร RATCH*, ADVANC*, SUPER*, LANNA*

แนวรับ: 1,606 / แนวต้าน : 1,630-1,680 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ลดต่ำกว่า 4 แสนราย. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยืนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 385,000 ราย โดยทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.63 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 390,000 ราย

เฟดฟิลาเดลเฟียหนุนเฟดพิจารณาลด QE. นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ระบุว่า การฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดแรงงานที่ดีดตัวขึ้นอาจเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับเฟดในการเริ่มพิจารณาชะลอการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE โดยนายฮาร์เกอร์กล่าวว่า เฟดจะลดการซื้อพันธบัตรอย่างค่อยเป็นค่อยไป

นายกฯ เผยวัคซีนแอสตร้าฯ ถึงไทยเรียบร้อย. เดือน มิ.ย.เตรียมจัดสรรฉีดให้ประชาชนทุกจังหวัด อนุทิน ระบุวัคซีนซิโนแวค-แอสตร้าฯ 1.1 ล้านโดสกระจายทั่วไทยแล้ว คาดดือน มิ.ย.-ส.ค.นำเข้าซิโนแวคอีก 11 ล้านโดส ด้านเลขาฯ สมช. ยัน 7 มิ.ย.เริ่มฉีด "สยามไบโอไซเอนซ์" ส่งมอบวัคซีนแอสตร้าฯ ผลิตในไทยล็อตแรก 1.8 ล้าน

นายกฯเตรียมถก ศบศ. ออกแผนรับมือท่องเที่ยว-ดึงลงทุนต่างชาติ. นายกฯ เตรียมหารือ ศบศ. พิจารณารายละเอียดแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดนำร่อง รวมถึงพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนผ่านการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าไทย

ประเด็นติดตาม: -  4-5 มิ.ย. ประชุมรมว.คลังกลุ่ม G7, 4 มิ.ย.: US Employment Reports

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)