เริ่มเดือดร้อน! ไบเดนเตรียมสั่งปล่อยคลังน้ำมันสำรอง ควบคุมราคาพลังงานที่พุ่งไม่หยุด

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังเตรียมการสั่งปล่อยน้ำมันสูงสุด 1 ล้านบาร์เรล จากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาตร์ ในความพยายามควบคุมราคาพลังงานที่พุ่งสูง หลังจากอเมริกาและพันธมิตรกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงเล่นงานรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน

สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ เปิดเผยว่า การแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวจะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ซึ่งทำเนียบขาวเคยเปิดเผยว่า ไบเดน มีแผนกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับแผนของรัฐบาลในการรับมือกับราคาก๊าซที่พุ่งสูง

แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุต่อว่า ระยะเวลาการปล่อยน้ำมันจากจากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาตร์ของประเทศยังไม่ได้ข้อสรุป แต่คาดหมายว่าน่าจะครอบคลุมระยะเวลานานหลายเดือน

ราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้นที่ไม่ได้มาพร้อมกับโนวแน้มกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น ก่อความท้าทายครั้งใหญ่แก่ไบเดน โดยประธานาธิบดีรายนี้ต้องพบเห็นคะแนนนิยมของตนเองดำดิ่ง ท่ามภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ และราคาปิโตรเลียมกับเบนซินดีดตัวสูงขึ้น หลังรัสเซียรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในวันพุธ (30 มี.ค.) ซื้อขายกันที่ราวๆ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนประมาณ 60 ดอลลาร์

บรรดาผู้ผลิตน้ำมันยังคงมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของผู้ลงทุนมากกว่า โดยผลสำรวจหนึ่งที่จัดทำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาดัลลัสที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าราว 59% ของบรรดาผู้บริหารที่ตอบแบบสอบถาม บอกว่าแรงกดดันจากผู้ลงทุนที่ต้องการให้สงวนไว้ซึ่งระเบียบวินัยด้านเงินทุน ท่ามกลางราคาที่พุ่งสูง คือเหตุผลที่พวกเขาไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มเติม ในขณะที่อีกราวๆ 10% กล่าวโทษไปที่กฎระเบียบของรัฐบาล

เมื่อเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลของไบเดนเคยแถลงปล่อยน้ำมัน 50 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ภายใต้ความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ และหลังจากสงครามยูเครนเริ่มต้นขึ้น สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ อีก 30 ชาติ เห็นพ้องปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมอีก 60 ล้านบาร์เรล โดยครึ่งหนึ่งในนั้นมาจากสหรัฐฯ

จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ พบว่าจนถึงวันที่ 25 มีนาคม สหรัฐฯ มีน้ำมันในคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์ มากกว่า 568 ล้านบาร์เรล

(ที่มา : เอพี)