MAKRO - ซื้อ (6 ก.ค.64)

MAKRO - ซื้อ (6 ก.ค.64)

ประมาณการ 2Q64: กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ MAKRO ใน 2Q64 จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (+20% YoY, -19% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในงวด 1H64 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (+10% YoY) คิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ทั้งนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจากผลของฐานที่ต่ำ (อย่างเช่นมีการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามเดินทางข้ามจังหวัด) ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล

Impact

SSSG ใน 2Q64 จะเป็นเลขตัวเดียวระดับกลาง ๆ

เราคาดว่ายอดขายของ MAKRO ใน 2Q64 จะอยู่ที่ 5.37 หมื่นล้านบาท (+7% YoY แต่ -2%QoQ) ส่งผลให้ยอดขายในงวด 1H64 อยู่ที่ 1.085 แสนล้านบาท (+3% YoY) เราคาดว่า SSSG ของ MAKRO ใน 2Q64 จะอยู่ที่ 5% (จาก -3.6% ใน 2Q63, -1.2% ใน 1Q64 และสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 2.5%) จากผลของฐานที่ต่ำในเดือนเมษายน 2563 (ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามเดินทางข้ามจังหวัด) เราคาดว่า MAKRO จะไม่เปิดสาขาใหม่เพิ่มทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศในไตรมาสนี้ ดังนั้นจำนวนสาขาจึงยืนอยู่เท่าเดิมที่ 145 สาขา (ในประเทศไทย 138 สาขา และในต่างประเทศ 7 สาขา)

อัตรากำไร และค่าใช้จ่ายยังทรงตัว

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัว YoY อยู่ที่ 9.7% (+0.1ppts YoY, -0.3ppts QoQ) เนื่องจากมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (margin ต่ำ) และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (margin สูง) ตามปกติในปีนี้ เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (+8% YoY, +1% QoQ) ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 8.3% (จาก 8.3% ใน 2Q63 และ 8.1% ใน 1Q64) โดยค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยในสถานการณ์ทที่ COVID-19 ระบาด

โมเมนตั้มยังแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปีนี้

สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน และการกระจายวัคซีนที่อาจจะไม่เป็นไปตามแผนทำให้เกิดความเสี่ยงด้าน downside ต่อกิจกรรมทางธุรกิจ และการเดินทาง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า MAKRO จะได้อานิสงส์จาก i) ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภคระดับครัวเรือน และ ii) การที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ MAKRO ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65F เอาไว้เท่าเดิม

Valuation & action

เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 เอาไว้ที่ 46.00 บาท อิงจาก PER ที่ 30.0X (ค่าเฉลี่ยของ MAKRO และ C.P. All (CPALL.BK/ CPALL TB)* -0.25 S.D.) ถึงแม้ว่ากำไรจะมีแนวโน้มเติบโตไม่หวือหวา ~6-7% ในปี 2564-65 (ในขณะที่หุ้นอื่นในกลุ่มมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยที่ 38% - 14%) แต่ราคาหุ้น MAKRO ค่อนข้างถูก โดยคิดเป็น PER เพียง 23.4X (อิงจาก EPS ปี 2565 เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต -1.5 S.D.) ซึ่งยังเหลือ upside อีก 28% ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” MAKRO

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้, disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ