พาณิชย์เดินหน้ากำหนดแนวทางเก็บค่าจีพี

พาณิชย์เดินหน้ากำหนดแนวทางเก็บค่าจีพี

กรมการค้าภายใน เตรียมตั้ง “คณะอนุกรรมการ” พิจารณาโครงสร้างค่าจีพี ที่ฟู้ดเดลิเวอรี่เก็บจากร้านอาหาร ก่อนกำหนดแนวทางการจัดเก็บให้เหมาะสม หลังร้านอาหารรายกลาง-เล็กร้องเรียน อัตราจัดเก็บปัจจุบันที่ 30-35% สูงเกินไป พร้อมชง “กกร.”กำหนดมาตรการคุมเข้ม

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมดูแลการจัดเก็บค่าส่วนแบ่งการขาย (จีพี) ที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มส่งอาหาร (ฟู้ดเดลิเวอรี่) เรียกเก็บจากร้านอาหาร ที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์ม ให้มีความเป็นธรรม และเหมาะสม เพราะได้รับการร้องเรียนจากร้านอาหารรายกลางและเล็กจำนวนมากว่า แพลตฟอร์มบางรายเรียกเก็บในอัตราสูงมาก ดังนั้น กรมจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น เพื่อพิจารณาโครงสร้างการจัดเก็บ ก่อนที่จะกำหนดแนวทางการจัดเก็บค่าจีพีให้เหมาะสมต่อไป  

“ปัจจุบัน แพลตฟอร์มเก็บค่าจีพีอยู่ที่ 30-35% หรือประมาณ 180-200 บาทต่อ 1 การสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) ในจำนวนนี้ แพลตฟอร์มบอกว่า ต้องแบ่งไปให้ไรเดอร์ (พนักงานส่งสินค้า) ด้วย 10-40 บาท และอีกบางส่วนเอามาเป็นส่วนลดราคาอาหารให้กับลูกค้า ถ้าลูกค้าสั่งซื้อไม่ถึง 100 บาท แพลตฟอร์มจะขาดทุน แต่ถ้าเก็บมากไป ร้านอาหารรายเล็กๆ ก็แทบไม่ได้อะไรเลย ตรงนี้ต้องมาดูความเหมาะสม ซึ่งคณะอนุกรรมการ จะพิจารณากำหนดแนวทางการจัดเก็บที่เหมาะสม และทุกฝ่ายอยู่ได้” 

   162279609659            

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า  ขณะเดียวกัน จะพิจารณากำหนดมาตรการกำกับดูแลธุรกิจบริการซื้อขาย และ/หรือบริการขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจออนไลน์ด้วย เพราะธุรกิจดังกล่าวอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 63 ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน พิจารณากำหนดมาตรการกำกับดูแลตามกฎหมายต่อไป 

อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มรายเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่ Lineman, GRAB, Foodpanda, Robinhood, Gojek ทุกรายยืนยันว่า ไม่มีนโยบายปรับขึ้นค่าจีพี และค่าขนส่งในขณะนี้ เพราะทราบดีว่า ร้านอาหารได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลงมาก และต้องการช่วยเหลือร้านอาหารด้วย โดยแพลตฟอร์มบางรายให้ร้านค้าเลือกที่จะจ่ายค่าจีพีหรือไม่ ส่วนแพลตฟอร์มบางรายไม่ได้เก็บค่าจีพีอยู่แล้ว หรือเก็บเฉพาะจากร้านอาหารรายใหญ่เท่านั้น  

ในเร็วๆ นี้ จะประชุม กกร. เพื่อพิจารณาทบทวนบัญชีสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 64 ซึ่งจะต้องพิจารณาทบทวนทุกปี คาดว่า ในปีนี้ จะไม่ถอดสินค้า หรือบริการใดออกจากบัญชีควบคุม หรือไม่เพิ่มเข้ามาในบัญชี เพราะขณะนี้ สถานการณ์จำหน่ายสินค้าและบริการ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่มีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคามากๆ จนทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน แต่อาจจะพิจารณาเพิ่มความเข้มงวด หรือผ่อนคลายการใช้มาตรการกำกับดูแลให้เกิดความเหมาะสมกับสินค้าและบริการควบคุมแต่ละรายการมากกว่า 

             

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากธุรกิจบริการซื้อขาย และ/หรือบริการขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจออนไลน์ จะอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 63 ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 แล้ว คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ยังได้กำหนดไกด์ไลน์ หรือแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหาร กับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารด้วย หากแพลตฟอร์ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าพ.ศ.2560 มีโทษปรับสูงสุด 10ของยอดขายในปีที่กระทำผิด 

สำหรับพฤติกรรมต้องห้าม ได้แก่ 1.การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์อื่นที่ไม่เป็นธรรม  เช่น เก็บค่าจีพีโดยไม่มีเหตุผลอันควร หรือมีลักษณะเลือกปฏิบัติ, เก็บค่าธรรมเนียมโฆษณา, เก็บค่าส่งเสริมการขายในโอกาสพิเศษทางการตลาด 2.กำหนดเงื่อนไขทางการค้าอันเป็นข้อจำกัด หรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม เช่น ห้ามร้านอาหารจำหน่ายอาหารผ่านแพลตฟอร์มของรายอื่นโดยไม่มีเหตุผลอันควร เป็นต้น  

3.ใช้อำนาจเหนือตลาดต่อรองที่เหนือกว่าอย่างไม่เป็นธรรม เช่น แทรกแซง หรือจำกัดอิสระในการกำหนดราคาของร้านอาหาร, ให้ร้านอาหารออกจากแพลตฟอร์ม เป็นต้น และ4.การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมอื่นๆ เช่น บังคับ หรือกำหนดเงื่อนไขพิเศษ หรือจำกัด หรือกีดกันการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจอื่น จนอาจก่อให้เกิดความเสียหาย