'จีน-พลังงานสะอาด'หนุนราคาโภคภัณฑ์โลก

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาโภคภัณฑ์หลายตัว โดยเฉพาะราคาทองแดงในตลาดโลกจะทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง อานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวเพราะได้แรงหนุนจากการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจจีนที่ซบเซามานานเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บวกกับความพยายามผลักดันนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ของประเทศใหญ่ๆ แม้บรรดานักลงทุนระยะยาวบางกลุ่มยังคงยืนกรานที่จะสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ

ราคาทองแดงที่ตลาดซื้อขายโลหะล่วงหน้ากรุงลอนดอน (แอลเอ็มอี)ในช่วงต้นเดือนพ.ค.ทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10,460 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งราคาทองแดงไม่ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับนี้มานานนับทศวรรษแล้วแต่บรรดานักวิเคราะห์ในตลาดไม่ได้แปลกใจที่ราคาทองแดงปรับตัวเพิ่มขึ้น

“การปรับตัวขึ้นของราคาทองแดงในตลาดโลกเป็นไปตามคาดการณ์ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ราคาทองแดงต้องทะยานเหนือ 10,000 ดอลลาร์”ทากายูกิ ฮอนมา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสุมิโตโมะ คอร์พอเรชัน โกลบอล รีเสิร์ช ให้ความเห็น

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อความต้องการทองแดงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน โดยจีน เป็นผู้ซื้อทองแดงรายใหญ่สุดของโลก และบริโภคทองแดงครึ่งหนึ่งของปริมาณผลผลิตทองแดงทั่วโลก ขณะที่การนำเข้าทองแดงและการผลิตทองแดงของจีนเพิ่มขึ้น 9.8% ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

“แทบจะไม่มีเหตุผลที่ราคาทองแดงจะร่วงลง เพราะทองแดงเริ่มเป็นโภคภัณฑ์ที่ดึงดูดใจนักลงทุน โดยเฉพาะเมื่อประเทศชั้นนำของโลกหันมาให้ความสำคัญกับการผลักดันนโยบายปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์เหลือศูนย์เปอร์เซนต์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนการใช้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งคัน ใช้พลังงานจากลมและพลังงานจากแสงอาทิตย์”เทตสึ อีโมริ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)อีโมริ ฟันด์ แมเนจเมนท์ กล่าว

ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ให้สัญญาว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 และการทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ต้องรวมโลหะที่สนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียวเข้าไว้ด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น มีการใช้ทองแดงในกระบวนการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดพลังงานในรูปแบบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อย่างแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนรถไฟฟ้าใช้ทองแดงประมาณ 90 กิโลกรัมต่อหน่วยเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้แก๊สในปริมาณ 15 กิโลกรัม

“มาซารุ ชิโอมิ” หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน(ซีเอฟโอ)จากสุมิโตโมะ คอร์ป ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองนิกเกิ้ลในมาดากัสการ์ ให้ความเห็นไว้ก่อนหน้านี้ว่า การส่งเสริมให้ใช้รถยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของจีนสร้างแรงกระเพื่อมอย่างมหาศาลแก่อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและแนวโน้มนี้จะช่วยเร่งความเร็วในการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายมากขึ้น ที่สำคัญมูลค่าของนิกเกิ้ลจะไม่เหมือนเดิมแต่จะทะยานขึ้นไปอีก

ประเมินกันว่า ความต้องการนิกเกิ้ลสำหรับอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรีรถยนต์จะขยายตัวประมาณ 10 เท่าภายในปี 2573 เป็นประมาณ 1 ล้านตันเมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนความต้องการทองแดงสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์จะเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวในปี 2583 เป็น 8.6 ล้านตันเมื่อเทียบกับปี 2562

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนกระตุ้นให้ราคาโภคภัณฑ์หลายตัวทะยานขึ้นแม้ในช่วงที่โรคโควิด-19กำลังระบาด โดยในรอบ1ปี ราคาแร่เหล็ก ทะยาน 78% ส่วนราคาโลหะอื่นๆอย่างนิกเกิ้ลและอลูมิเนียมก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

การที่ราคาโภคภัณฑ์หลายตัวปรับตัวขึ้นมาก ทำให้คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปของจีน (เอ็นดีอาร์ซี) ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะใช้บทลงโทษขั้นรุนแรงต่อผู้ที่ละเมิดกฎข้อบังคับด้านการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสะกัดความร้อนแรงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

แถลงการณ์ของเอ็นดีอาร์ซีระบุว่า รัฐบาลจีนจะไม่อดทนต่อพฤติกรรมการปั่นราคาทั้งในตลาดสปอตและตลาดซื้อขายล่วงหน้า รวมทั้งจะลงโทษผู้ที่เผยแพร่ข่าวเท็จ ซื้อขายเพื่อการเก็งกำไร และกักตุนสินค้า

เจ้าหน้าที่ของเอ็นดีอาร์ซีและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหลายแห่งของรัฐบาลจีน แจ่งแก่บรรดาผู้นำบริษัทแร่เหล็ก เหล็กกล้า ทองแดง และอลูมิเมียม ในการประชุมว่า นอกเหนือจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว การซื้อขายแบบเก็งกำไรก็เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในจีนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

เอ็นดีอาร์ซีระบุว่า บริษัทสินค้าโภคภัณฑ์จำเป็นต้องร่วมมือกันส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ และรักษาระบบนิเวศในภาคอุตสาหกรรมให้มีความสมดุล ซึ่งในขั้นตอนต่อไป ทางการจีนจะจับตาแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะเพิ่มความเข้มงวดในการใช้กฎข้อบังคับทั้งในตลาดสปอตและตลาดซื้อขายล่วงหน้า และจะใช้บทลงโทษที่หนักขึ้นต่อผู้ที่ละเบิดกฎข้อบังคับ

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองแดงตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนก.ค. ปิดตลาดวันศุกร์(21พ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 8.7 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 4.4810 ดอลลาร์/ปอนด์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองแดงร่วงลง 3.7%

"เจฟฟ์ แคลร์แมน" นักวิเคราะห์จากบริษัทแกรนิตแชร์ส( GraniteShares) กล่าวว่า สัญญาทองแดงร่วงลงหลังจากรัฐบาลจีนประกาศว่าจะใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาโลหะทองแดงพุ่งขึ้นรุนแรงเกินไป พร้อมระบุว่า ปริมาณการใช้ทองแดงของจีนนั้นมีสัดส่วนสูงกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้ทองแดงทั่วโลก