เนสเพรสโซชวนคอกาแฟร่วมกันรักษ์โลก พร้อมส่งกาแฟรสชาติใหม่จากการพลิกฟื้นไร่กาแฟและช่วยเหลือเกษตรกรในคองโก

เนสเพรสโซชวนคอกาแฟร่วมกันรักษ์โลก พร้อมส่งกาแฟรสชาติใหม่จากการพลิกฟื้นไร่กาแฟและช่วยเหลือเกษตรกรในคองโก

เนสเพรสโซชวนคอกาแฟร่วมกันรักษ์โลก พร้อมส่งกาแฟรสชาติใหม่จากการพลิกฟื้นไร่กาแฟและช่วยเหลือเกษตรกรในคองโก

องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายนเป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก” (World Environment Day) แบรนด์ที่ให้ความใส่ใจในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนมาโดยตลอดอย่าง เนสเพรสโซ (Nespresso) จึงเชิญชวนคอกาแฟมาร่วมกันรักษ์โลกด้วยการส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้วเพื่อให้เนสเพรสโซได้นำไปรีไซเคิลต่อ โดยเนสเพรสโซได้ริเริ่มโครงการรีไซเคิลที่ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถนำอะลูมิเนียมจากแคปซูลที่ใช้แล้วกลับมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ดังจะเห็นได้จากการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Caran d’Ache (การองดาช) ในการผลิตปากการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น จากแคปซูลอะลูมิเนียมที่ผ่านการรีไซเคิลแล้ว และการร่วมมือกับแบรนด์ Vélosophy (เวโลโซฟี) รังสรรค์จักรยานที่ทำจากอะลูมิเนียมของกาแฟแคปซูลที่ใช้แล้วมารีไซเคิลใหม่ในชื่อ RE:CYCLE (รี:ไซเคิล) ส่วนในประเทศไทย       เนสเพรสโซก็ได้ริเริ่มโครงการรีไซเคิลมาตั้งแต่ปี 2017 ผ่านแคมเปญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Doing is Everything แคมเปญที่ส่งเสริมให้ลูกค้าเนสเพรสโซนำแคปซูลกาแฟใช้แล้วกลับมาคืนพร้อมรับ Nespresso Grow Kit กลับไปปลูกผักที่บ้าน หรือ    โปรเจ็กต์พิเศษกับเชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ ในการนำกากกาแฟของแคปซูลใช้แล้วมาเป็นส่วนผสมของดินในการปลูกผัก และนำผักนั้นมารังสรรค์เป็นอาหาร เป็นต้น

162279057737

ปรีติ ฮาลัย ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจ เนสเพรสโซ ประเทศไทย กล่าวว่า “การทำประโยชน์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเนสเพรสโซ เพราะเราเชื่อว่ากาแฟแต่ละแก้วไม่เพียงแต่ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟู เติมเต็ม และคืนความมีชีวิตชีวาให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม เราเรียกแนวคิดนี้ว่า The Positive Cup ซึ่งหมายถึง การสร้างสรรค์กาแฟที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อโลกใบนี้ ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกไปจนถึงการดื่มกาแฟ (From Cherry To Cup) ซึ่งเรานำหลักการเหล่านี้มาปฎิบัติผ่านเป้าหมายของเรา 3 ข้อ คือ 1. ยกระดับการจัดการกับอะลูมิเนียม และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด (reduce, reuse, recycle)  2. ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ และ 3. ภายในปี 2022 กาแฟทุก ๆ แก้วของเนสเพรสโซ จะปลอดคาร์บอนไดออกไซด์  โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้มีการส่งเสริมและผลักดันโครงการรีไซเคิล ด้วยการให้ความรู้ลูกค้าเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ที่เราใช้ในการกักเก็บกาแฟ ซึ่งกาแฟแคปซูลของเราทำมาจากอะลูมิเนียมที่มีคุณสมบัติในการย่อยสลาย สามารถนำไปรีไซเคิลให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ ส่วนกากกาแฟ เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้ เช่น นำไปใช้เป็นปุ๋ย และเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ เราจึงต้องการตอกย้ำปณิธานที่ไม่เพียงแค่การส่งมอบกาแฟที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้า แต่ยังต้องการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสนับสนุนให้ลูกค้าเข้าร่วมโครงการรีไซเคิล โดยรณรงค์ให้ลูกค้านำกาแฟแคปซูลที่ใช้แล้วกลับมาคืนที่ร้านเนสเพรสโซทุกสาขา หรือตามจุดคืนแคปซูลตามห้างสรรพสินค้า เพื่อเราจะได้นำแคปซูลเหล่านั้นไปรีไซเคิลให้ย่อยสลายกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น ปากกา หรือ จักรยาน เป็นต้น เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจพร้อมกับการขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”

และล่าสุดนี้เนสเพรสโซ ยังได้ส่งกาแฟออร์แกนิกรสชาติใหม่ในกลุ่ม Reviving Origins อันเป็นผลลัพธ์จากการเข้าไปพลิกฟื้นไร่กาแฟที่ใกล้สูญพันธุ์แห่งหนึ่งของโลกในชื่อ Reviving Origins KAHAWA ya CONGO (รีไววิง ออริจินส์ คาฮาวา ยา คองโก ซึ่งมีความหมายว่า “ความหวังของคองโก) กาแฟเบลนด์ที่มีความนุ่มละมุนและหอมหวานของผลไม้ เพาะปลูกบนผืนดินภูเขาไฟอันอุดมไปด้วยแร่ธาตุในทะเลสาบคีวู (Lake Kivu) สาธารณรัฐคองโก ที่ซึ่งการทำไร่กาแฟในอดีตเคยรุ่งโรจน์ แต่กลับได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงภายในประเทศมานานหลายสิบปี เนสเพรสโซได้ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการปลูกกาแฟในคองโกผ่านโครงการ Reviving Origins ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อความยั่งยืน หรือ Nespresso AAA Sustainable Quality Program™ ที่เนสเพรสโซได้ทำงานร่วมกับชาวไร่กาแฟกว่า 110,000 คนทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาสามารถเพาะปลูกกาแฟที่มีคุณภาพได้ตลอดทั้งปี

162279057752

เนสเพรสโซได้ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไรระดับโลกอย่าง TechnoServe, U.S Agency for International Development (USAID) และนักธุรกิจค้ากาแฟ Virunga Coffee/Olam International เพื่อเข้าไปทำงานกับชาวไร่กาแฟที่อาศัยอยู่ในคีวูตอนใต้จำนวน 2,500 คน โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพกาแฟและปริมาณผลผลิต รวมถึงวางรากฐานการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน แต่ในขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขา และนอกจากนี้เนสเพรสโซยังอยู่ในขั้นตอนของการขยายพื้นที่โครงการให้ครอบคลุมทั่วทั้งคีวูตอนเหนือ เพื่อช่วยเหลือชาวไร่กาแฟอีก 1,700 คนด้วย

 

ทั้งนี้ลูกค้าเนสเพรสโซสามารถนำแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้วจัดเก็บใส่ไว้ในถุงรีไซเคิลกลับมาหย่อนลงตู้ ณ จุด         รีไซเคิลได้ที่เนสเพรสโซ บูติก ทุกสาขา รวมไปถึงจุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยคุณสามารถตรวจสอบจุดรับแคปซูลใช้แล้วใกล้บ้านคุณได้ที่ https://www.nespresso.com/th/th/how-to-recycle-coffee-capsules และสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของเนสเพรสโซ ใกล้บ้านคุณได้แล้ววันนี้ โดยเช็คได้จากลิงค์ https://www.nespresso.com/th/th/store-locator#map-intro โทรฟรี 1800-019090 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. เว็บไซต์ http://www.nespresso.com/th หรือเนสเพรสโซ แอปพลิเคชั่นสำหรับ iPhone, iPad และ Android TM                                                                                                                    และสามารถติดตามข่าวสาร รวมทั้งกิจกรรมของเนสเพรสโซ ได้ที่ Facebook.com/Nespresso.thailand, Instagram: @Nespresso.th #NespressoTH, Line: @NespressoTH