บลจ.ไทยพาณิชย์ ลุย 'หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์' โตไม่หยุด

บลจ.ไทยพาณิชย์ ลุย 'หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์' โตไม่หยุด

บลจ.ไทยพาณิชย์ ลุยหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เสนอขาย “SCBSEMI” IPO 8 – 14 มิ.ย. นี้ เห็นโอกาสการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งจากส่วนประกอบสำคัญในนวัตกรรมยุคใหม่ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 เดือน อยู่ที่ 1.80% ตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.85% 

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดฉ(Semiconductor) ที่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการขับเคลื่อนนวัตกรรม จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (SCB Semiconductor : SCBSEMI) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 8 – 14 มิ.ย. 2564 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ต้องอาศัยเซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบหลักสำคัญในการขับเคลื่อนโลกดิจิทัล ส่งผลให้ตลาดในกลุ่มนี้มีการเติบโตต่อเนื่องโดยคาดการณ์ว่าช่วงปี 2016 – 2022 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% โดยกลุ่ม Data Processing และการสื่อสาร (5G) จะเติบโตมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ

เนื่องจากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อตอบสนองการใช้งานโครงข่าย Wireless, 5G และ Internet of things จะเป็นส่วนผลักดันสำคัญที่ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทในกลุ่มนี้เติบโตในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งหากเราดูจากแบบสอบถามผู้บริหารบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์จำนวน 156 บริษัททั่วโลกเมื่อต้นปี (ที่มา: KPMG Semiconductor Industry Survey 2021) จะพบว่ามีการคาดการณ์รายได้และกำไรในสัดส่วนที่สูงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีบริษัทจำนวน 85% คาดว่ารายได้จะเติบโตในปี 2021 และบริษัทจำนวน 79% คาดว่ากำไรจะขยายตัวได้ในปี 2021 เช่นกัน

นอกจากนี้ ธุรกิจกลุ่มนี้ยังได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่อัดฉีดงบในการพัฒนาและผลิตชิ้นส่วน advance semiconductor และสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บริษัทที่สั่งซื้อมาใช้ในธุรกิจอีกด้วย จากปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้มีความน่าสนใจและสามารถสร้างโอกาสการลงทุนได้ในระยะยาว

สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) หรือชิป (Chip) เป็นวัสดุที่สำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ใช้ในการผลิตแผงวงจรเล็ก ๆ เช่น แผงวงจรรวม (Integrated Circuit) หรือแผงวงจรที่ซับซ้อน (PCB – Print Circuit Board) เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มักมีส่วนประกอบ เช่น ซิลิคอน เจอร์เมเนียม และซิลิเนียม โดยเซมิคอนดักเตอร์สามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย อาทิเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), เครือข่าย 5G, หุ่นยนต์, แหล่งเก็บพลังงาน, Smart phone, ด้านการแพทย์ หรือเครื่องบิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถแบ่งตามการใช้งานได้ 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ซึ่ง Application, Technology และ Infrastructure ซึ่งต้องใช้ Chip เป็นหลักในการทำงาน

ทั้งนี้ กองทุน SCBSEMI เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ VanEck Vectors Semiconductor UCITS ETF (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ London Stock Exchange ประเทศอังกฤษ บริหารโดย VanEck Asset Management B.V. และอยู่ภายใต้ UCITS โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน

ส่วนกองทุนหลัก จะลงทุนโดยมุ่งเน้นให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี MVIS US Listed Semiconductor 10% Capped Index (MVSMCTR) โดยประกอบไปด้วยบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 เดือน อยู่ที่ 1.80%, ตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.85% และตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 15.67% เทียบกับดัชนีอ้างอิง MVSMCTR อยู่ที่ 1.81%, 11.91% และ 15.57% ตามลำดับ (ที่มา: Vaneck ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564)