เปิดตำนาน'หย่าพันล้าน'มหาเศรษฐีฟอร์บส

เปิดตำนาน'หย่าพันล้าน'มหาเศรษฐีฟอร์บส

ข่าวบิลและเมลินดา เกตส์ หย่าร้างหลังใช้ชีวิตคู่กันมา 27 ปีอาจเป็นข่าวช็อกโลก แต่สำหรับอภิมหาเศรษฐีฟอร์บส 400 ถือว่าไม่น่าประหลาดใจ พวกเขารู้ดีว่าต่อให้มีเงินเต็มเรือยอชท์ ก็ซื้อความสุขไม่ได้

“คุณยังต้องรับมือกับอารมณ์มนุษย์เหมือนเดิม เจอปัญหามนุษย์เหมือนเดิม ความมั่งคั่งไม่อาจปกป้องคุณจากสิ่งเหล่านี้ได้” ไมเคิล มอสเบิร์ก หุ้นส่วนบริษัทกฎหมายครอบครัว “อารอนสัน เมเยฟสกี แอนด์สโลน” ในนิวยอร์กที่บรรดาอภิมหาเศรษฐีชอบมาใช้บริการให้ความเห็น

ในความเป็นจริงอภิมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยสุดๆ ในสหรัฐหย่าร้างในอัตราเดียวกับประชาชนโดยเฉลี่ย ฟอร์บสตรวจสอบความสัมพันธ์ของ 50 อภิมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดของประเทศ พบว่า คนเหล่านี้ (แต่ละคนร่ำรวยไม่น้อยกว่า 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์) เคยกล่าวคำปฏิญาณ “I do” ในพิธีแต่งงานรวมกัน 72 ครั้ง ในจำนวนนี้ 35 ครั้งจบลงที่การหย่า ส่งผลอัตราหย่าร้างของผู้มั่งคั่งกลุ่มนี้อยู่ที่ 49% พอๆ กับอัตราหย่าร้างของชาวอเมริกันทั่วไปที่ 40%-50%

ฟอร์บสพบว่า ชาร์ลส โดแลน อภิมหาเศรษฐีเคเบิลอยู่กับภรรยา “เฮเลน” มานาน 70 ปี แต่ช่วงเวลาเดียวกันนี้โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งงานไปแล้ว 3 ครั้ง อีลอน มัสก์แต่ง 3 ครั้ง แลร์รี เอลลิสัน ผู้บริหารออราเคิลคอร์ปอเรชัน แต่ง 4 ครั้ง และเซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล แต่งงานครั้งที่ 2

สำหรับบิลและเมลินดาที่ดูเหมือนเจรจาเรื่องทรัพย์สินจบไปแล้ว โดยทั้งคู่ยังคงร่วมกันเป็นประธานมูลนิธิบิล-เมลินดา เกตส์ มูลนิธิเอกชนใหญ่สุดของโลก แต่คู่รักไฮโซบางคนไม่ได้เจรจากันง่ายๆ แบบนี้

ตอนที่บิล กรอส ราชาพันธบัตรแยกทางกับภรรยาที่อยู่กันมา 30 ปีในปี 2559 การหย่าร้างกลายเป็นระเบิดนิวเคลียร์ทันที ทั้งคู่ต้องสู้กันในศาล (ยื่นระงับคำสั่งศาล) และในตลาดอสังหาริมทรัพย์ (ต่างฝ่ายต่างพยายามซื้อสินทรัพย์ให้มีราคาสูงกว่าอีกฝ่าย)

ฟอร์บสรวบรวมการแบ่งทรัพย์สินจากการหย่าร้างที่มากที่สุดในสหรัฐจากคู่อภิมหาเศรษฐีที่น่าสนใจ เช่น 

1. เจฟฟ์ เบซอสและแมคเคนซี สกอตต์: อย่างน้อย 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งคู่พบกันขณะทำงานที่กองทุนเพื่อการเก็งกำไร “ดีอี ชอว์” ในนิวยอร์ก หลังจากย้ายไปอยู่ซีแอตเทิล แมคเคนซีก็ช่วยเจฟฟ์ลงหลักปักฐานอเมซอน

เดือน เม.ย.2562 พวกเขาประกาศเงื่อนไขการหย่า แมคเคนซีได้หุ้นในอเมซอนราว 4% มูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ประกาศหย่า (ถึงตอนนี้มูลค่าเพิ่มขึ้นมาก เพราะหุ้นอเมซอนขึ้้นมาเกือบ 75% นับจากนั้น) ส่วนเจฟฟ์ ครอบครองบริษัทจรวด “บลูออริจิน” และวอชิงตันโพสต์ไปทั้งหมด เมื่อการหย่าเสร็จสิ้น แมคเคนซี ผู้เปลี่ยนนามสกุลเป็นสกอตต์ในปี 2563 และแต่งงานใหม่ในเดือน มี.ค.ปีนี้ก็กลายเป็นหญิงผู้ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของโลก

2. บิลและซู กรอส: 1.3 พันล้านดอลลาร์

การแยกทางโกลาหลของครอบครัวกรอสสร้างเศรษฐีใหม่ขึ้นมา 1 คน และฉุดรั้งอีกคน ซูฟ้องหย่าสามีผู้ก่อตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ “พิมโก” เมื่อปี 2559 และเธอหย่าสำเร็จ 1 ปีหลังจากนั้นด้วยความมั่งคั่ง 1.3 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงบ้านลากูนาบีช มูลค่า36 ล้านดอลลาร์ ภาพเขียน“Le Repos" ผลงานในปี 2475 ของปิกัสโซ ที่ตอนหลังซูขายไปในราคา 35 ล้านดอลลาร์ 

บิลพยายามยื้อแมว 1 ใน 3 ตัว แต่ซูได้ดูแลทั้งหมด สุดท้ายอดีตสามีต้องหลุดจาก 400 อภิมหาเศรษฐีฟอร์บสในปี 2561 จากที่เคยติดอันดับมา 14 ปีติดต่อกัน ปัจจุบันบิลและซูทำองค์กรการกุศลของตนเอง

3. สตีฟและเอเลน วินน์: 850 ล้านดอลลาร์

ผู้ร่วมก่อตั้งกาสิโนยักษ์ใหญ่ “วินน์รีสอร์ต” หย่ากันเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2553 ข้อตกลงระบุให้ เอเลน ผู้เป็นกรรมการวินน์รีสอร์ตมาตั้งแต่ปี 2545 ได้หุ้น 11 ล้านหุ้น ราคาตอนนั้นราว 795 ล้านดอลลาร์

ปีนั้นสตีฟขายหุ้นออกไปอีกราว 114 ล้านดอลาร์ ถ้าไม่ทั้งหมดก็บางส่วนตกเป็นของเอเลนตามข้อตกลงหย่า จากนั้นเธอฟ้องวินน์รีสอร์ตในปี 2555 เพื่อขายหุ้น 9% ของเธอ และถูกขับออกจากคณะกรรมการใน 3 ปีต่อมา ท่ามกลางการใช้ตัวแทนต่อสู้กันดุเดือด

เดือน ก.พ.2561 สตีฟเจอข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศที่เขาปฏิเสธ แต่ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งซีอีโอและประธานบริษัทแล้วขายหุ้นทั้งหมดที่มี ตอนนี้เอเลนจึงเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยใหญ่สุดของวินน์รีสอร์ต มูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์

นอกจากการแบ่งสินทรัพย์บันลือโลกแล้ว อภิมหาเศรษฐีก็มีเรื่องราวชีวิตคู่เป็นข่าวดังอย่างอีลอน มัสก์ วัย 49 ปี ผ่านการแต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง รวมทั้งแต่ง 2 ครั้งกับนักแสดงสาว “ทาลูลาห์ ไรลีย์” คนเดิม

เจ้าบ่าวต่อเนื่องที่โด่งดังมากที่สุดน่าจะได้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ การหย่าร้างกับภรรยาคนแรก “อิวานา ทรัมป์” นางแบบชาวเช็ก เป็นข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ยุคต้นทศวรรษ 90 รวมทั้งข่าวที่ดูเหมือนเขาจะสร้างขึ้นมาเองที่่ว่า มาร์ลา เมเปิลส์ แฟนใหม่ทรัมป์อ้าง “ทรัมป์คือเซ็กส์ที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยมี”

จากนั้นทรัมป์ก็แต่งงานกับเมเปิลส์ในปี 2536 เมื่อความสัมพันธ์ร้าวฉาน ทรัมป์ก็มาแต่งกับนางแบบชาวสโลวีเนีย “เมลาเนีย นอสส์” ในปี 2548 แต่ความฝืนใจโรแมนติกในระยะหลังทำให้เกิดการคาดเดาตั้งแต่ทั้งคู่ยังไม่เข้าทำเนียบขาวจนกระทั่งออกไปแล้วว่า อนาคตชีวิตคู่คงไปไม่รอด