รัสเซียกระจายกำลังล้อมเคียฟ-ยูเครนพร้อมป้องกันกรุงแตก

รัสเซียกระจายกำลังล้อมเคียฟ-ยูเครนพร้อมป้องกันกรุงแตก

ยูเครนเตรียมตัวป้องกันกรุงเคียฟอย่างไม่ลดละ เมื่อกองทัพรัสเซียรุกคืบเข้ามา เมืองหลวงเสี่ยงถูกปิดล้อมในทันทีทันใด ขณะที่มาริอูโพล เมืองท่าทางภาคใต้ถูกระเบิดถล่มอย่างหนัก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองทัพรัสเซียรุกคืบเข้ามามาก เพิ่มความวิตกว่ากรุงเคียฟอาจถูกปิดล้อมได้ทุกขณะ ส่วนเมืองอื่นๆ ถ้าไม่ถูกรัสเซียยึดก็ถูกปิดล้อมไปแล้ว นับตั้งแต่เริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.

เมื่อคืนวันเสาร์ (12 มี.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวในคลิปวีดิโอโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า ไม่ว่าจะอย่างไร รัสเซียไม่ได้มีพลังหรือกำลังใจพิชิตยูเครนได้

“รัสเซียผู้รุกรานไม่อาจพิชิตเรา พวกเขาไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น พวกเขาไม่มีกำลังใจขนาดนั้น พวกเขามีแต่ความรุนแรง มีแต่การก่อการร้าย มีแต่อาวุธ มีมากมาย”

ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ทหารยูเครนถูกสังหารไปราว 1,300 คน ถือเป็นยอดทหารเสียชีวิตทางการครั้งแรกของยูเครน ส่วนรัสเซียสูญเสียทหารไปราว 12,000 นายตามคำพูดของประธานาธิบดีเซเลนสกี ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค.รัฐบาลมอสโกให้ตัวเลขทหารเสียชีวิตไว้ที่ 498 นาย

ส่วนสถานการณ์ในกรุงเคียฟมีแต่ถนนสายที่มุ่งสู่ภาคใต้เท่านั้นที่ยังเปิดอยู่ ประธานาธิบดีกล่าวว่ากรุงเคียฟกำลังเตรียมการป้องกันอย่างไม่ลดละ

วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีเคียฟกล่าวว่า เมืองหลวงกำลังเสริมการป้องกันเมือง พร้อมตุนอาหารและยาสำรอง
 

กระทรวงกลาโหมอังกฤษประเมินว่า เมื่อวันเสาร์ (12 มี.ค.) กองทัพรัสเซียอยู่ห่างจากเมืองหลวงของยูเครนราว 25 กิโลเมตร ขบวนรถทางตอนเหนือกระจายตัว ตอกย้ำข้อบ่งชี้ถึงความพยายามจะล้อมเมือง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ในพื้นที่กล่าวว่า กองทัพรัสเซียถูกต้านทานอย่างหนักจากกองทัพยูเครนทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของเมือง ทหารยูเครนเชื่อว่า รัสเซียประเมินกำลังตนเองสูงเกินไปทั้งในแง่กำลังพลและอาวุธ และประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำไป

“พวกเขาต้องตั้งแคมป์ในหมู่บ้านท่ามกลางอุณหภูมิติดลบเกือบ 10 องศาเซลเซียสในตอนกลางคืน พวกเขาไม่มีเสบียงเลยต้องบุกปล้นบ้านชาวบ้าน” อิลยา เบเรเซนโก ทหารยูเครนวัย 27 ปีเล่า

ที่เมืองมาริอูโพล ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือถูกขวางที่จุดตรวจของทหารรัสเซีย

เมืองท่าทางยุทธศาสตร์แห่งนี้กำลังเผชิญกับ “หายนะด้านมนุษยธรรม” ตามคำเรียกขานของยูเครน พลเรือนถูกสังหารกว่า 1,500 คนความพยายามอพยพพลเรือนหลายแสนคนล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แหล่งข่าวกองทัพฝรั่งเศสรายหนึ่งเผยว่า มาริอูโพลยังถูกล้อม เมื่อรัสเซียเอาชนะกองทัพยูเครนไม่ได้จึงพุ่งเป้าหมายมาที่พลเรือน

ด้านมิคาอิล มิซินต์เซฟ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมกลาโหมแห่งชาติรัสเซีย พูดตรงๆ ถึงสถานการณ์มนุษยธรรมในยูเครนว่า เสื่อมถอยต่อเนื่อง บางเมืองถึงจุดหายนะ

ในคลิปวีดิโอประธานาธิบดีเซเลนสกีประกาศขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

“ผมยังคงย้ำอีกครั้งถึงพันธมิตรและเพื่อนของเราในต่างแดน พวกเขาต้องทำเพื่อประเทศเรา เพื่อชาวยูเครนและประเทศยูเครนให้มากกว่านี้ เพราะนี่ไม่ใช่แค่เพื่อยูเครน แต่เพื่อยุโรปทั้งหมด” 

ขณะเดียวกันความพยายามทางการทูตก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ของเยอรมนี เร่งเร้าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ในการสนทนาโทรศัพท์สามสายเมื่อวันเสาร์ ให้ยุติการปิดล้อมถึงแก่ชีวิต

ประธานาธิบดีปูตินที่ถูกนานาชาติประณามเพิ่มขึ้นทุกที พยายามกลับสู่โต๊ะเจรจา แต่ก็กล่าวหายูเครนว่าละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างรุนแรง กองทัพยูเครนสังหารผู้เห็นต่างและใช้พลเรือนเป็นตัวประกัน ข้อกล่าวหานี้ถูกผู้นำฝรั่งเศสสวนกลับระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์สามสายว่า “โกหก”