ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นมากกว่าคาด  

และถือเป็นการเร่งตัวที่ค่อนข้างเร็วจากเงินเฟ้อมี.ค.ที่ 2.6% แม้ว่าเฟดจะได้พยายามส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อที่อาจจะเร่งตัวมากกว่าปกติจากฐานที่ต่ำในปีก่อน (transitory inflation) จะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว อย่างไรก็ตามการเร่งขึ้นของเงินเฟ้อดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันต่อการปรับพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเป็นลบโดยเฉพาะกลุ่มที่มูลค่าอิงกระแสเงินสดระยะยาวในอนาคต และซื้อขายด้วย Valuation ที่แพงอย่างกลุ่มเทคโนโลยี

MSCI ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลงเหลือ 1.73% จาก 1.83% คิดเป็นเม็ดงเนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ถูกปรับออกจากการคำนวณดัชนี และถูกลดน้ำหนัก ได้แก่ (ถูกปรับออก) KBANK-F, DTAC / (ถูกลดน้ำหนัก) PTT, KBANK, INTUCH, CPN, SCC, CPALL, EGCO, TU อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวจะเป็นโอกาสเข้าเก็งกำไรหุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณ และเพิ่มน้ำหนัก ได้แก่ (ถูกนำเข้า) SCGP, CBG / (ถูกเพิ่มน้ำหนัก) OSP, KTC, STGT, BH

เลือกหุ้นในกลุ่มที่รับมือเงินเฟ้อและการขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรได้ดี พลังงาน ปิโตรเคมี และสินค้าโภคภัณฑ์ (PTT, IRPC, กลุ่มเหล็ก, น้ำมันปาล์ม, น้ำตาล, มันสำปะหลัง) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวได้ดีในช่วงเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มอาหาร (TU, CPF, TVO) จะได้อานิสงค์จากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น (Food inflation) ขณะที่กลุ่มประกัน (TIP, THRE, BLA) ผลประกอบการมีทิศทางบวกต่อการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร นอกจากนี้จะขึ้นกับปัจจัยของหุ้นรายตัว โดยหุ้นที่มีผลการดำเนินงานมั่นคง สามารถปรับราคาสินค้าและบริการตามเงินเฟ้อได้ (EASTW, WHAUP) หรือมีทิศทางผลประกอบการที่เติบโตเชิงโครงสร้างได้อย่างต่อเนื่อง (SUPER, TNP)

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART, EASTW, WHAUP, PTG 6) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 7) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP

ภาพรวมกลยุทธ์ อ่อนตัวไม่หลุด 1,550 จุด ภาพการเก็งกำไรไม่เปลี่ยน (ถ้าหลุดกลยุทธ์จะเปลี่ยนเป็นเก็งกำไรในช่วงตลาดปรับตัว) อย่างไรก็ตามความกังวลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ  ทำให้เน้นเลือกหุ้นรายตัวที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ โดยยังคงคำแนะนำไม่ไล่ราคาในหุ้นที่ปรับขึ้นมาก // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร TIP*, EASTW*, SUPER*

แนวรับ 1,550-1,560 / แนวต้าน : 1,585 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

เงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งมากสุดในรอบ 12 ปี. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. พุ่ง 4.2% yoy และ 0.8% mom สูงกว่าตลาดคาดที่ 3.6% yoy และ 0.2% mom ตามลำดับ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 12 ปี จากแรงหนุนของราคาพลังงานที่ดีดสูงขึ้นรวมถึงผลจากฐานที่ต่ำในปีก่อน

ยอดขายรถยนต์จีนพุ่ง 8.6% เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13. สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) เผยยอดขายรถยนต์ของจีน เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 8.6% yoy แตะ 2.25 ล้านคัน โดยเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13

ราคาบิตคอยน์ร่วง 16% หลัง Tesla ระงับรับซื้อรถผ่านบิตคอยน์. ราคาบิตคอยน์ร่วงแรง 16% หลุด $50,000 หลัง Elon Musk ประกาศระงับการรับซื้อรถด้วยบิตคอยน์โดยให้เหตุผลว่าการขุดบิตคอยน์เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม

หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ร่วงยกแผง เหตุกังวลสงครามดอกเบี้ยและมาตรการแฮร์คัตหนี้รายย่อย. กระทรวงการคลัง ธปท. และกรมสรรพากร หารือมาตรการช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้รายย่อยโดยมีแนวโน้มออกมาตรการสนับสนุนให้ non-bank ปรับโครงสร้างหนี้ผ่านการลดหนี้ (hair cut) โดยให้นำความเสียหายดังกล่าวมาลดหย่อนภาษีได้

เลื่อนแผนกู้ THAI. การบินไทยเลื่อนโหวตรับแผนฟื้นฟฟูกิจการไปเป็นวันที่ 19 พ.ค. นี้ หลังเจ้าหนี้ร้องขอ ด้านคลังรอผลโหวตชัดเจนก่อนเสนอแผนค้ำประกันเงินกู้การบินไทย

 

ประเด็นติดตาม: - 13 พ.ค.: US Initial Jobless Claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)