'คนละครึ่งเฟส 3' กับ 'ยิ่งใช้ยิ่งได้' รู้ก่อนลงทะเบียน เลือกอันไหนดี?

'คนละครึ่งเฟส 3' กับ 'ยิ่งใช้ยิ่งได้' รู้ก่อนลงทะเบียน เลือกอันไหนดี?

เช็คเงื่อนไขก่อนลงทะเบียน 'คนละครึ่งเฟส 3' กับ 'ยิ่งใช้ยิ่งได้' สำรวจรายละเอียดมาตรการไหนเหมาะกับใคร เลือกอันไหนคุ้มกว่ากัน?

หลังจากที่ ครม. เคาะมาตรการเยียวยา "โควิด-19" รอบล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2 มาตรการที่มีการอนุมัติในคร้ังนี้ คือ "คนละครึ่งเฟส 3" และ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ซึ่งทั้ง 2 มาตรการนี้ไม่สามารถใช้พร้อมกันได้ จะต้องเลือก มาตรการใดมาตรการหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลายคนสับสนว่า ระหว่าง "คนละครึ่งเฟส3" กับ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ควรเลือกใช้มาตรการไหนดี ?

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมเงื่อนไข และความแตกต่างของทั้ง 2 มาตรการ พร้อมทั้งช่วยเปรียบเทียบว่ามาตรการไหนเหมาะกับใครบ้าง 

   

  •  คนละครึ่งเฟส 3 

รายละเอียด "คนละครึ่งเฟส 3"

ผู้มีสิทธิ : สำหรับผู้ที่มีสิทธิได้ใช้เงิน "คนละครึ่งเฟส 3" คือผู้ที่เคยได้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 1 และเฟส 2 มาแล้ว รวมถึงผู้ที่ยังไม่เคยได้สิทธิคนละครึ่งจำนวน 16 ล้านคน ที่จะต้องลงทะเบียนใหม่

วันลงทะเบียน :  สามารถลงทะเบียนรับเงินเยียวยาได้ในวันที่ 14 มิ.ย. 64 เวลา 06.00 น. - 22.00 น. ผ่าน www.คนละครึ่ง.com

เงื่อนไขการใช้เงิน/ใช้สิทธิ : ผู้ที่ได้สิทธิคนละครึ่งเฟส3 ในครั้งนี้ จะได้รับเงิน 3,000 บาทต่อคน แบ่งเป็น 2 รอบ รอบละ 1,500 บาท รอบแรกเริ่ม ก.ค.-ก.ย. 64 และรอบที่ 2 ต.ค.-ธ.ค. 64 โดยใช้วงเงินได้ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน (รัฐจ่าย 150 ผู้มีสิทธิจ่าย 150)

"คนละครึ่งเฟส 3" เหมาะกับใคร ?

สำหรับคุณสมบัติของคนที่จะได้สิทธิ "คนละครึ่งเฟส3" คือ เกณฑ์คุณสมบัติเดียวกันกับผู้ที่เคยได้ "คนละครึ่ง" เฟสก่อนหน้า คือ

- มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย  

- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป วันที่ลงทะเบียน

- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่สามารถรับสิทธิโครงการคนละครึ่งได้ โดยสามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.t)

ซึ่ง "คนละครึ่งเฟส 3" ให้วง 3,000 บาท ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน โดยลักษณะสำคัญคือช่วยลดค่าใช้จ่าย จึงเหมาะกับคนที่ใช้จ่ายในแต่ละวันไม่ได้สูงมาก เน้นการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันเป็นหลัก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

  •  ยิ่งใช้ยิ่งได้ 

รายละเอียด "ยิ่งใช้ยิ่งได้"

"ยิ่งใช้ยิ่งได้" คือมาตรการที่ภาครัฐสนับสนุนบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) ให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน

ผู้มีสิทธิ : ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุน e-Voucher จากภาครัฐช่วง ก.ค.-ก.ย. 64 เพื่อใช้จ่ายเดือน ส.ค.- ธ.ค. 64 ซึ่งจะมีการใช้จ่ายคนละ 60,000 บาท 

วันลงทะเบียน : โครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" จะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 21 มิ.ย. 64 เวลา 06.00-22.00 น. 

เงื่อนไขการใช้เงิน/ใช้สิทธิ : วิธีการใช้สิทธิโครงการดังกล่าว ผู้มีสิทธิจะต้องชำระเงินผ่าน "G-Wallet" บนแอพฯ "เป๋าตัง" เพื่อซื้อสินค้าและบริการกับผู้ประกอบการร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งทางฝั่งผู้ประกอบการร้านค้าเอง ก็จะต้องติดตั้งแอพฯ "ถุงเงิน" เพื่อร่วมโครงการนี้ด้วย

ผู้ที่ต้องการได้ e-Voucher ของโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" เต็มจำนวน 7,000 บาทนั้น จะต้องมีการใช้จ่ายสูงสุดประมาณ 60,000 บาท โดยจะต้องใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการก่อน หลังจากนั้นรัฐจึงจะคืนเงินให้ 10-15% ของค่าใช้จ่ายนั้นๆ โดยจะโอนเงินเข้าให้ใน G-Wallet ของแอพเป๋าตังทุกต้นเดือนถัดไป โดยเงินนี้จะไม่สามารถแลกออกมาเป็นเงินสดได้ แต่สามารถใช้จ่ายผ่านเป๋าตังได้

"ยิ่งใช้ยิ่งได้" เหมาะกับใคร ?

เงื่อนไขหลักของโครงการ คือ ถ้าเลือกใช้ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ไปแล้ว จะใช้สิทธิ "คนละครึ่งเฟส 3" ซ้ำซ้อนไม่ได้ ทั้งนี้ผู้ที่จะเลือกเข้าโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้

  • ลงทะเบียนผ่าน www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 21 มิ.ย. 64 
  • มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน
  • ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
  • ไม่เป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ (ผู้พิการ,ผู้สูงอายุ)
  • ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิในโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3"
  • ต้องจับจ่ายในร้านค้าที่จดทะเบียน VAT
  • ผู้ที่เคยได้สิทธิราชนะ/ม.33เรารักกัน สามารถเข้าร่วมโครงการได้

จะเห็นได้ว่ารายละเอียดของโครงการจะเน้นให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายผ่านผู้ให้บริการที่จดทะเบียน VAT ซึ่งจะเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ และให้แคชแบ็คสำหรับคนที่มีการใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นมาตรการนี้จึงเหมาะกับคนที่มีกำลังซื้อสูง ใช้จ่ายทั้งสินค้าและบริการสูงอยู่แล้วเป็นปกติ จึงจะได้สิทธิประโยชน์จากมาตรการนี้

   

  •  "คนละครึ่งเฟส 3" กับ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" เลือกอะไรดี ? 

เพราะฉะนั้น ไม่มีมาตรการไหนดีที่สุด มีเพียงมาตรการที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด กล่าวโดยสรุปคือ ผู้ที่คาดว่าตัวเองมีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว สามารถเลือกรับแคชแบ็คจาก "ยิ่งใช้ยิ่งได้" สูงสุดถึง 7,000 บาทแต่คนที่ไม่ได้ใช้จ่ายในสัดส่วนที่สูงมาก สามารถเลือก "คนละครึ่งเฟส3" ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายสูง แต่ได้วงเงินช่วยลดค่าใช้จ่าย 50% ไปแทน