เจาะ 'ศปฉ.' 8 ขั้วการเมือง เร่งแต้ม 'โควิด' สนามกทม.

จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ สะสมยอดผู้ติดเชื้อระลอก 3 ตั้งแต่ 1 เม.ย.จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยมากกว่า 3.5 หมื่นราย ทำให้หลายภาคส่วนได้ระดมมาตรการเพื่อหยุดการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด

ไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมือง นักการเมืองหลายกลุ่ม ได้ขยับเข้าช่วยเหลือคนกรุงเทพฯ แต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะจะได้เห็นว่ากลุ่ม ส.ส. อดีต ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ทั้งระดับผู้ว่าฯ กทม. ส.ก. ส.ข.ทยอยเปิดตัวลงพื้นที่ตัวเองเพื่อเร่งสร้างคะแนนนิยม ก่อนการเลือกตั้งสนามกทม.

"กรุงเทพธุรกิจ" พาไปสำรวจกิจกรรมลงพื้นที่ของ 8 ขั้วการเมืองในสถานการณ์โควิดระลอกนี้

เริ่มที่พรรค "ประชาธิปัตย์" ได้ตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) เพื่อหาเตียงให้ผู้ป่วยเพื่อนำส่งรักษาในระบบการแพทย์ที่เตรียมไว้ รวมถึงการเปิดโครงการ "ข้าวกล่องเดลิเวอรี่" 40,000 กล่อง ส่งตรงถึงบ้าน” โดยมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ปราโมช นำไปแจกพื้นที่สีแดงครั้งแรกที่วัดดวงแข เขตปทุมวัน โดย "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้าพรรค ซึ่งเขตปทุมวันเป็นพื้นที่เดิมของ "อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์" อดีต ส.ส.กทม. ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ได้นำข้าวกล่องไปแจกต่อที่เขตหลักสี่ พื้นที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ "มือปราบหูดำ" ที่เคยลงสมัคร ส.ส.เมื่อปี 2562

จากนั้นโครงการแจกข้าวกล่องได้ลงพื้นที่เขตบึงกุ่ม โดยมี "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" รองหัวหน้าพรรค และ "ปพนชัย สุวรรณทศ" และทีมงานประชาธิปัตย์บึงกุ่ม ลงพื้นที่ชุมชนสุวรรณประสิทธิ์ 2-3 โดยเป้าหมายที่ "ประชาธิปัตย์" วางไว้จะลงพื้นที่ในโครงการนี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อนำข้าวกล่องไปแจกในเขต "เรดโซน" เพื่อช่วยประชาชนที่ขาดรายได้ หรือไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอย ซื้ออาหารได้เอง

ขณะที่พรรค "พลังประชารัฐ" เปิด "ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 หรือ "Call center ศปฉ.พปชร." เพื่อเปิดช่องทางให้บริการประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขรวดเร็ว ในภาวะการแพร่ระบาดโควิดโดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรค เป็นผู้อำนวยการศูนย์ โดยศูนย์แห่งนี้จะทำหน้าที่ประสานงานกับ ส.ส.ในพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อ ให้เข้ารับการรักษาในระบบสาธารณสุข

ส่วน "วทันยา วงษ์โอภาสี" ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบะ "ศิริพงษ์ รัสมี" ส.ส.กทม.เขตหนองจอก นำข้าวสาร อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ แจก ปชช.พร้อมฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ตามชุมชนในเขตหนองจอก

ด้านพรรค "เพื่อไทย" โดย "วิชาญ มีนชัยนันท์" ประธานโซน 3 ภาค กทม. "ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์" ส.ส.เขตลาดกระบัง และ "ไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์" อดีต ส.ส.เขตหนองจอก เป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธา ส่งมอบ "เครื่องผลิตออกซิเจน" ให้กับโรงพยาบาลเอราวัณ 2 บางกอกอารีน่า เขตหนองจอก เพื่อใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ หรือผู้ที่ต้องการออกซิเจนกรณีมีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ

ขณะที่ "กมลพัฒน์ ปุ่งบางกะดี่" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางขุนเทียน และเลขานุการว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.โซน 5 ประกอบด้วย "พิพัฒน์ ชัยไพบูลย์" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางขุนเทียน "ชาติชาย ปัตตะพงศ์" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตราษฏร์บูรณะ และ "กิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตทุ่งครุ เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยมอบเครื่องผลิตออกซิเจน 2 เครื่อง ให้โรงพยาบาลผู้สูงอายุ บางขุนเทียน เพื่อใช้สำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีปัญหาด้านการหายใจหรือปอดเป็นหลัก

มาที่ "พรรคกล้า" โดย "กรณ์ จาติกวณิช" หัวหน้าพรรค "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" เลขาธิการพรรค และ "สมัย เจริญช่าง" ประธานคณะกรรมการจริยธรรม "มนูญ อินช่วย" ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก."ณัฐนันท์ กัลยาศิริ" ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และทีมงานเขตคลองสามวา ได้ร่วมกับบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) โดย "ภิมุข สิมะโจน์" ประธานกรรมการบริหาร เปิด "ศูนย์สู้โควิดช่วยเหลือประชาชน" ที่ปั๊มน้ำมัน SUSCO ถนนหทัยราษฏร์ เพื่อนำอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นส่งมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบ

ไม่ใช่แค่การตั้งศูนย์ประสานงานอย่างเดียว แต่ "กล้า" ยังตั้งโครงการ "กล้าสู้โควิด" ช่วยหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อ โครงการ "กล้าเติมอิ่ม" ตั้งโรงครัว แจกข้าวกล่อง ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดรายได้แลพกักตัวไม่สามารถออกมาจากบ้านได้ รวมถึงโครงการ "กล้าหางาน" เพื่อบรรเทาผลกระทบการว่างงานจากวิกฤตโควิดช่วยประชาชนที่ว่างงานได้มีงานทำ

ส่วนพรรค "ก้าวไกล" ตั้ง "ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต" หรือ Think Forward Center เพื่อช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้าง-ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐในการป้องกันโควิด โดยที่ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรค และกลุ่ม ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ในนาม “กลุ่มเปลือกส้ม” ได้ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ HFNC ให้โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน เพื่อสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ไปถึงบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ซึ่งกลุ่ม "เปลือกส้ม" ช่วยกันระดมทุนซื้อเครื่องช่วยหายใจมูลค่า 4 แสนบาทมอบให้โรงพยาบาลนำร่องพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นจุดแรก

นอกจากนี้พรรค "ไทยสร้างไทย" ได้ตั้งโครงการ "รวมพลังสู้ภัยโควิด" โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค และประพนธ์ เนตรรังสี ประเสริฐ ทองนุ่น และทีม กทม.ของพรรค ลงพื้นที่เขตลาดพร้าว บางเขน และบางกะปิ เพื่อพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ พร้อมแจกแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่หมู่บ้าน คอนโด ชุมชนในทุกเขต ซึ่ง "รณกาจ ชินสำราญ" และ ดร.สุวดี พันธุ์พานิช  ทีม กทม.พรรคนำถุงขยะแดงไปแจกชุมชนต่างๆ เพื่อแยกขยะของผู้ติดเชื้อหรือผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้ กทม.นำไปคัดแยกและทำลายถูกวิธี

ข้ามมาที่ว่าที่ผู้สมัคร กทม.ในนามอิสระ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวชัดเจน 2 ราย โดย "รสนา โตสิตระกูล" อดีต ส.ว.กทม. ได้ลงพื้นที่วัดสะพาน เขตคลองเตยทันทีที่เริ่มมีการระบาด ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถูกจัดให้เป็นสถานที่พักคอย ก่อนส่งตัวผู้ติดเชื้อโควิดในชุมชนแออัดคลองเตย ไปรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ ภายหลัง "หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระพิศาลธรรมานุสิฐ" เจ้าอาวาสวัดสะพาน ได้อุทิศพื้นที่วัดเพื่อแยกผู้ติดเชื้อไม่ให้แพร่เชื้อต่อให้กับคนในครอบครัวและคนในชุมชน

โครงการนี้เป็นการร่วมมือกันของ วัด ชุมชน หน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สังกัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานเขตคลองเตย มูลนิธิดวงประทีป และกลุ่มคลองเตยดีจังของคนรุ่นใหม่ที่ทำงานเกาะติดพื้นที่มายาวนาน โดย "รสนา" ได้นำยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรไปมอบให้ที่วัดสะพาน 120 กระปุก เพื่อนำไปแจกผู้ติดเชื้อ ส่วนที่เหลือมอบให้ "มูลนิธิดวงประทีป" นำไปให้ครอบครัวผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง

ขณะที่ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีต รมว.คมนาคม โดยทีมอาสาสมัคร "เพื่อนชัชชาติ" นำสิ่งของที่มีผู้บริจาคไปมอบให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด ที่ชุมชนวังใหญ่พัฒนา เขตสะพานสูง ซึ่งเป็นชุมชนที่มี 140 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 500 คน ซึ่งชุมชนนี้ตั้งอยู่สุดซอยกรุงเทพกรีฑา 19 ติดคลองบึง ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ คนป่วยติดเตียง ภายหลังบุคคลในครอบครัวตกงานและมีรายได้ลดลง โดย "ชัชชาติ" ได้เปิดช่องทางเป็นอาสาสมัครเพื่อนชัชชาติ ที่ https://bit.ly/3eQL5EG เพื่อร่วมเป็นอาสาสมัครต่อไป

ทั้งหมดเป็นความเคลื่อนไหวจากกลุ่มการเมือง และว่าที่ผู้สมัครสนาม กทม.ที่เริ่มทยอยเปิดตัวกับคนกรุงเทพฯ ในสถานการณ์ "โควิด" ระลอกใหม่ ที่ยังไม่มีท่าทีจะหยุดแพร่ระบาด ในวิกฤตินี้จึงเป็นโอกาสให้นักการเมืองได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน เพื่อสะสมแต้มสำหรับสนามเลือกตั้งหลังโควิดคลี่คลาย.