เคาะกุฏินิมนต์พระ รวมพลัง อสม. ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ

เคาะกุฏินิมนต์พระ รวมพลัง อสม. ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ

กาฬสินธุ์ เคาะกุฏินิมนต์พระ รวมพลัง อสม. ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ


“หมู วิรัช พิมพะนิตย์” ที่ปรึกษารมว.คมนาคมรวมพลังอสม.รณรงค์ชวนประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ พร้อมเดินเคาะกุฏินิมนต์พระสงฆ์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์นำจิตอาสาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่มาฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นบุคลากรด่านหน้า กลุ่มอาชีพเสี่ยง ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดประชาชน


เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่ศาลาวัดชัยสุนทร อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศิริศักดิ์ บุญไชยแสง สาธารณสุขอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ สจ.อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เขต 4 รองประธานสภาอบจ.กาฬสินธุ์ นายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ เลขานุการนายกอบจ.กาฬสินธุ์ นายนิราช สืบมา ประธาน อสม.อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับ อสม.ทั้ง 36 ชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ไปบอกต่อและรณรงค์รวมทั้งเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อย่างน้อยให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร


จากนั้นได้ลงพื้นที่เดินเท้าเข้าเคาะประตูบ้านและเคาะประตูกุฏิพระภายในวัดชัยสุนทร เพื่อสร้างความเข้าใจและกราบนิมนต์พระสงค์เข้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากพระต้องปฏิบัติกิจของสงฆ์ทั้งการออกบิณฑบาต และถูกนิมนต์ไปงานต่างๆ ซึ่งบางงานต้องใกล้ชิดกับญาติโยม นอกจากนี้นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้ระดมแรงกายแรงใจจากญาติสนิท มิตรสหาย รวมทั้งหน่วยงานต่างๆจัดกองทุนผ้าป่ามอบประกันภัยโควิด-19 ให้กับอสม. เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ อสม.ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าอีกด้วย

162166695510

นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับพี่น้องอสม.มาแล้วหลายตำบลพบว่า ประชาชนมีความเข้าใจว่าการฉีดวัคซีนไม่เป็นอันตราย มีผลข้างเคียงน้อยมากๆ และเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนมากขึ้น หลายคนเมื่อได้รับทราบความรู้ที่ถูกต้องแล้วต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และทำเพื่อคนที่ตนเองรัก ซึ่งรัฐบาลก็ได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และที่สำคัญหากประชาชนทั้งประเทศได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร หรือได้รับครบ 100 เปอร์เซ็นต์ประชาชนคนไทยจะสามารถถอดหน้ากากกลับเข้าสู่ประเทศสยามเมืองยิ้ม และสามารถปฏิบัติหน้าที่และทำมาหากินได้ตามปกติ


นายวิรัช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางกระทรวงคมนาคมเอง โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคมก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฉีดวัคซีนให้ได้ทุกคน พร้อมกับจัดศูนย์รถไฟบางซื่อ เปิดสถานที่รองรับและอำนวยความสะกวดให้ประชาชนประกอบอาชีพขนส่งทุกประเภทที่จะเดินทางมารับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นอยากเชิญชวนประชาชนชาวไทยทั่วประเทศมารวมพลังกันฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ


ด้านนายศิริศักดิ์ บุญไชยแสง สาธารณสุขอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนการฉีดวัคซีนบุคลากรและประชาชนทุกสาขาอาชีพในพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์นั้นได้ตั้งเป้าว่าอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุดอสม.ส่วนราชการ และประชาชนมีการตอบรับที่ขึ้นมาก โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้ามีความประสงค์ฉีดวัคซีนจำนวนมาก ซึ่งทางสำนักงานสารณสุขเองขอเชิญชวนประชาชนเข้ามาฉีดวัคซีนกันทุกคน เพื่อป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19

162166696828

ด้านนางพุติชา ไชยหอม ประธานอสม.เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้อสม.ทุกคนทราบถึงความสำคัญและประโยชน์ในการฉีดวัคแล้วว่ามีความสำคัญและประโยชน์ เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกัน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองแล้วยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อีกด้วย ซึ่งอสม.ใน 36 ชุมชนเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้รับการฉีดไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลืออีกบางส่วนอยู่ระหว่างการแจ้งชื่อและลงทะเบียน ทั้งนี้อสม.เองยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่สร้างความเข้าใจและรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้ได้รับการฉีดวัคซีนได้ให้มากที่สุด


ขณะที่นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ นำจิตอาสาพระราชทาน 904 จ.กาฬสินธุ์ เข้าให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคลากรด่านหน้า กลุ่มอาชีพเสี่ยงที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชน ทั้ง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ บุคลากรประจำศาลจ.กาฬสินธุ์ อัยการ และส่วนราชการที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชน ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังเก่า) พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ลงทะเบียนผ่านแอพฟลิเคชั่น “หมอพร้อม” เพื่อรับวัคซีน