ศบศ. ไฟเขียว จ.ภูเก็ต นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว 1 เมษายน ลดกักตัวเหลือ 7 วัน ก่อนลดมาตรการในเดือนกรกฎาคม หากตรวจโควิดผ่านไม่ต้องกักตัว ชี้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวหลายประเทศ
วันที่ 26 มีนาคม 2564 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (ศบศ.) ที่ประชุมเห็นชอบแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 468 ล้านโดส ใน 135 ประเทศ จะเห็นได้ว่ามีผู้ได้รับวัคซีนแล้วจำนวนมากและพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยว
โดยจากการสำรวจนักท่องเที่ยวกว่า 17,000 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้ตลาดระยะไกลที่ต้องเดินทางมานานกว่า 6 ชั่วโมง เช่น เยอรมัน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เป็นต้น รวมถึงตลาดระยะใกล้ เช่น จีน อินเดีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ พบว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของทุกตลาดนักท่องเที่ยว ปลายทางยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ หัวหิน ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวจะเลือกประเทศที่ไม่ต้องกักตัว และเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนแล้ว และอยากมาเที่ยวปี 2564 มากกว่าปี 2565
อย่างไรก็ตาม ศบค. กำหนดแล้วว่าไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว จึงอยากทดลองในบางพื้นที่ก่อน ซึ่งเป็นที่มาของ "ภูเก็ต Sandbox" คือ รับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้ว แต่ต้องกักตัวในพื้นที่โรงแรม 7 วัน จากนั้นจะกำหนดพื้นที่ Seal Route เพื่อให้ไปท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ที่กำหนด
โดยพื้นที่แรกที่จะเริ่มในไตรมาส 2 (1 เมษายน) คือ จ.ภูเก็ต ก่อนขยายไปพื้นที่อื่น เช่น กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่
และในไตรมาส 4 พื้นที่เป้าหมายทั้งหมด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนและผลตรวจโควิด 19 เป็นลบ จะไม่ต้องกักตัว แต่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันควบคู่ เช่น แอปพลิเคชันติดตามตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยคู่ฟ้า ทําเนียบรัฐบาล
